ประวัติสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม
ประวัติสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม หากย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน หลาย ๆ คน โดยเฉพาะแฟนบอลเดอะกันเนอร์ พวกเขาคงไม่เคยคิดเคยฝันว่าสักวันหนึ่งพวกเขาต้องย้ายออกจาก สนามไฮบิวรี่ สนามเหล้าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย หลังใช้งานมาตั้งแต่ปี 1913 จน ถึงปี 2006 อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนบอล เดอะกูนเนอร์ ยุคใหม่หลายคนคงจะรู้จักแต่เพียงสนาม เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม และสนามแห่งนี้ตั้งอยู่ ที่แอชเบอร์ตันโกรฟในฮอลโลเวย์ (Holloway) ลอนดอนเหนือ และเป็นสนามที่อาร์เซน่อลใช้ทำการแข่งขันเป็นทีมเหย้า สนามแห่งนี้มีที่นั่งทั้งหมด 60,355 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นสนามที่ใหญ่อันดับที่ 2 ของ พรีเมียร์ลีก ตามหลังสนามของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเพียงสนามเดียวเท่านั้น (ในปี ค.ศ.2006) แน่นอนว่าสนามแห่งนี้คือความฝันของใครหลายๆคนที่จะเข้าไปชมเกมการแข่งขันที่สนามแห่งนี้ชักครั้ง
ประวัติสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ประวัติสนามสโมสรอาร์เซน่อล
อาร์เซน่อลเองก็เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งของเกาะอังกฤษ พวกเขาคว้า 13 แชมป์ลีกสูงสุด รวมถึงแชมป์เอฟเอมากสุดที่ 13 สมัย สโฒสรอาร์ซเน่อลเป็นเพียงสโมสรเดียวไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุด นับตั้งแต่ก่อตั้งลีกปี 1983 และผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเขาเกิดขึ้นในปี 2003/200 ด้วยแชมป์ประวัติศาสตร์ไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาล 49 เกม ในขณะเดียวกันความกีฬาของพวกเขานั้นก็มีความยิ่งใหญ่แม้กันเช่นกัน
แผนย้ายสนามเกิดขึ้นครั้งแรกปี 1997 เดิมทีอาร์เซน่อลมีแผนซื้อสนามเวมบลีย์ ในปี 2001 ต่อมาสภาเมืองอนุมัติให้สโมสรเดอะกันเนอร์สามารถ สร้างสนามกีฬาเป็นของตัวเองได้และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2006 งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมด 390 ล้านปอนด์ อย่าไงรก็เปิดสนามไม่นาน สนามแห่งนี้ถูกแฟนบอลวิจารณ์ว่า ไร้ซึ่งมนตร์ขลัง แตกต่างจากไฮบิวรี่อย่างมาก ต่อมาสโมสรอาร์เซน่อลได้นำ นาฬิกา เดอะ สปิริต ออฟ ไฮบิวรี่ ย้ายมาติดตั้งที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยมแทน หลังนาฬิกาเรือนนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนประวัติศาสตร์ของสโมสรมีอายุถึง 100 ปี
ที่มาเอเมิเรสต์ เสตเดี้ยม
อาร์เซน่อลเปิดใช้สนามครั้งแรก ภายใต้ชื่อ ดิ แอชเบอร์ตัน โกรฟ (The Ashburton Grove) สนามเหย้าอาร์เซน่อลกลายเป็นสนามที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก และอันดับ 3 ของประเทศอังกฤษทันที ในปี 2006 เกมแรกที่เกิดขึ้นในสนามใหม่แห่งนี้ก็คือ เกมเทสโตมิเนี่ยล แมตช์ สั่งล่า เดนิส เบิร์กแคมป์ พบกับอา แจ๊ก อัมสเตอร์ดัมส์
ไม่กี่เดือนต่อมาสนามแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์ สายการบินสัญชาติ ยูเออี สนามจึงเปลี่ยนชื่อเป็น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ในปี 2007 อย่างเป็นทางการ รับทรัพย์กว่า 42 ล้านปอนด์ ตลอดระยะสัญญา 15 ปี ก่อนจะเพิ่งขยายสัญญาเพิ่มอีก 7 ปี และจะใช้ชื่อสนามสายการบินนี้ไปอีกอย่างน้อยถึงปี 2028 สัญญายาวดังกล่าวส่งผลให้แฟน ๆ มักจะออกมาแซวกันว่า สนามบอล หรือสนามบิน (Arsenal Terminal)
สนามกีฬาแห่งนี้ถึงแม้จะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและความทันสมัย แต่ก็ยังไม่แคล้วถูกแฟนบอลวิพากวิจารณ์ เนื่องจากเป็นสโมสรที่มีค่าเฉลี่ยตั๋วเข้าชมเกมแพงที่สุดในลีก และยังแพงกว่าค่าเข้าสนามซานติอาโก เบอร์นาเบวด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามสโมสรแห่งนี้ก็ยังมียอดขายตัวสูงกว่า 80-85 เปอร์เซ็นต์ต่อเกมอยู่ดี บรรยากาศที่แตกต่างบางที สนามแห่งนี้กำลังรอคอย แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ?
ประวัติสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ความจุของสนาม
อัฒจันทน์ครึ่งบนของสนามจุได้ 26,646 ที่นั่ง และครึ่งล่างจุได้ 24,425 ที่นั่ง ที่นั่งทั้งหมดเป็นมาตรฐานของปี 2006-2007 ราคาบัตรเข้าชมอยู่ราวๆ 32 ปอนด์ ถึง 66 ปอนด์ แต่บัตรเข้าชมของเด็กอยู่ที่ราคา 13 ปอนด์เท่านั้น แต่แมตช์ที่เป็นเกมสำคัญ และมีคนต้องการดูเป็นอย่างมากราคาจะอยู่ที่ 46-94 ปอนด์ และราคาบัตรเข้าชมทั้งฤดูกาลอยู่ที่ 885 ปอนด์ถึง 1,825 ปอนด์
และฝั่งอัฒจันทร์ชั้นกลางหรือที่ทุกคนรู้จักในนาม “ระดับสโมสร” (Club Level) สามารถรับผู้ชมได้เพียง 7,139 ที่นั่ง ราคาบัตรฝั่งนี้จะอยู่ที่ 2,500 ปอนด์จนถึง 4,750 ปอนด์ต่อฤดูกาล และเข้าชมเกมในบ้านได้ทั้งหมดทุกถ้วย ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก เกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เอฟเอคัพ และคาร์ลิ่งคัพที่ปืนใหญ่อาร์เซนอลได้เล่นในบ้านด้วย เว็บข่าวกีฬา
ติดตามข่าวเพิ่มเติม :: ข่าวกีฬา
เครดิตโดย :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ